เชียงใหม่ เมืองแห่งการท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยวตัวเมืองเชียงใหม่
สถานที่เที่ยวเชียงใหม่มีเพียบโดยเฉพาะวัด ซึ่งมีกว่า 100 แห่ง ถ้าจะให้กล่าวในที่นี้คงไม่หมด เราจึงขอแนะนำวัดวัดเก่าแก่และเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มาให้ได้ชมกัน
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร (Wat Phra Singh)

ที่ตั้ง: ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ แผนที่
สร้างขึ้นกว่า 600 ปีก่อนและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ ตัวโบสถ์สร้างด้วยศิลปะแบบล้านนาแท้ที่มีทั้งปูนปั้นและรักปั้นปิดทองได้อย่างงดงาม หอไตรมีลักษณะเป็นครึ่งไม้ครึ่งปูน โดยครึ่งล่างเป็นปูนภายนอกประดับด้วยปูนปั้นรูปเทพและภายในประดับด้วยรูปสัตว์หิมพานต์ และอีกหนึ่งศิลปะชิ้นเอกคือวิหารลายคำ ซึ่งมีลวดลายปูนปั้นและจิตรกรรมฝาผนังที่ปราณีตที่สุดแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ความสำคัญของวัดพระสิงห์มิได้มีเพียงสถาปัตยกรรมที่วิจิตรเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์จำลอง (เนื่องจากองค์จริงถูกอัญเชิญมาประดิษฐานที่พระบรมมหาราชวังในกรุงเทพ) พระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของล้านนา และมีพระธาตุประจำปีมะโรงบรรจุในเจดีย์ทรงกลม ที่ชาวปีมะโรงควรมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดโพธารามมหาวิหารหรือวัดเจดีย์เจ็ดยอด *(*Wat Ched Yot)

ที่ตั้ง: ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง ตำบลช้างเผือก แผนที่
เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นกว่า 500 ปีก่อน เป็นโบราณสถานที่สำคัญอีกแห่งของเชียงใหม่ เดิมชื่อวัดเจดีย์เจ็ดยอดหรือวัดเจ็ดยอด เหตุที่ชื่อนี้เพราะมีพระเจดีย์เจ็ดยอด ที่สร้างด้วยศิลาแลงประดับด้วยลวดลายปูนปั้นเป็นรูปเทวดาที่ด้านนอกและฐานของตัวเจดีย์ และมียอดแบบทรงสิงขรทั้งหมดเจ็ดยอดด้วยกัน เจดีย์แห่งนี้สร้างคล้ายกับเจดีย์พุทธคยาในประเทศอินเดีย
วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร (Wat Chedi Luang)

ที่ตั้ง: ถนนพระปกเกล้า ตำบลพระสิงห์ แผนที่
เป็นพระอารามหลวงแบบโบราณ ที่สร้างขึ้นใจกลางตัวเมืองเชียงใหม่ในสมัยราชวงศ์เม็งรายราวกว่า 600 ปีก่อน มีพุทธสถานที่สำคัญของชาวเชียงใหม่คือพระธาตุเจดีย์หลวง ซึ่งเดิมสูงประมาณ 80 เมตร ซึ่งสูงที่สุดในอาณาจักรล้านนา แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 40 กว่าเมตร เนื่องจากส่วนยอดหักลงมาเมื่อเกิดพายุฝนและแผ่นดินไหว ตัวฐานเป็นสี่เหลี่ยมแบบโลหะปราสาทของลังกา ซึ่งมีรูปปั้นช้าง 28 เชือกรายล้อม ทางขึ้นเป็นแบบบันไดนาคทั้ง 4 ด้านของเจดีย์ ส่วนรูปลักษณ์เจดีย์เป็นแบบพุกาม เจดีย์แห่งนี้ประดิษฐานพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นอกจากนี้ ทางด้านหลังของเจดีย์หลวง เราจะได้สักการะพระนอนองค์ใหญ่ และด้านหน้าของเจดีย์ มีวิหารหลวง ซึ่งภายในบูชาพระอัฎฐารสหล่อด้วยสำริดและมีบันไดนาคเลื้อยที่งดงามวิจิตรที่หน้าทางเข้าวิหาร ซึ่งพุทธสถานเหล่านี้เป็นที่เคารพสักการะของชาวล้านนาจวบจนถึงปัจจุบัน
วัดโลกโมฬี (Wat Lokmolee)

ที่ตั้ง: ถนนมณีนพรัตน์ ตำบลศรีภูมิ แผนที่
เป็นโบราณสถานอีกแห่งที่มีอายุกว่า 500 ปี เป็นหนึ่งในวัดเพียงไม่กี่วัด ที่ไม่ได้ถูกเผาเมื่อครั้งตกเป็นเมืองขึ้นให้กับพม่า เมื่อมาถึงที่นี่ จะเห็นซุ้มประตูทางเข้าวัดเป็นลวดลายปูนปั้นสไตล์ล้านนา ภายในวัดมีวิหารซึ่งสร้างขึ้นใหม่ทดแทนวิหารเดิมที่เคยถูกปล่อยร้าง โดยใช้ศิลปะแบบล้านนาที่งดงามและประณีตด้วยลวดลายแกะสลักทั้งภายนอกและภายใน และมีพระพุทธสันติจิรบรมโลกนาถเป็นพระประทานของวิหาร ซึ่งพระเมาลีขององค์พระเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ด้านหลังวิหารมีโบราณสถานที่สำคัญของวัดนี้คือ เจดีย์วัดโลกโมฬี ที่สร้างขึ้นสมัยพระเมืองเกศเกล้า และต่อมาได้รับการพัฒนาปรับและสร้างต่อเติมจนมีความสูงดังที่เห็นในปัจจุบัน
นอกจากวัด ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรมของชาวเหนือแล้ว เรายังสามารถย้อนรอยสัมผัสกลิ่นอายอารยธรรมล้านนาได้ที่
ป้อมปราการและกำแพงเวียงเชียงใหม่ (Ancient Fortress & Walls)

ที่ตั้ง: ใจกลางตัวเมืองเชียงใหม่ แผนที่
หรือที่เรียกภาษากลางว่า กำแพงเมืองเชียงใหม่ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นกำแพงชั้นในของเมืองหลวงในระหว่างที่สถาปนาอาณาจักรล้านนา โดยคูเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสแล้วนำดินที่ขุดขึ้นมาได้มาถมเป็นกำแพงเมือง ก่ออิฐด้านบน และต่อยอดกำแพงที่เป็นรูปใบเสมา ปัจจุบันกำแพงและป้อมปราการที่กำแพงนั้นได้พังและเหลือเพียงซากในเพียงบางส่วนเท่านั้น
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่ (Chiangmai National Museum)

ที่ตั้ง: 451 หมู่ 2 ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ (ถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง) ตำบลช้างเผือก แผนที่
เป็นศูนย์กลางการศึกษา อนุรักษ์และให้ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งความเจริญของอาณาจักรล้านนาทางภาคเหนือของไทย ทั้งในด้านธรรมชาติวิทยา โบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ตลอดจนศิลปวัฒนธรรม โดยเปิดให้บริการทุกวันพุธ-วันอาทิตย์ ปิดวันปีใหม่และสงกรานต์ เวลา 9.00 – 16.00 น. ค่าเข้าชมสำหรับคนไทย 10 บาท และต่างชาติ 30 บาทเท่านั้น
ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ (Old Chiangmai Cultural Center)

ที่ตั้ง: 185/3 ถนนวัวลาย ต.หายยา แผนที่
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบลิ้มลองอาหารพื้นเมืองพร้อมเพลิดเพลินไปกับการแสดงแล้วละก็ ไม่ควรพลาดมาเยือนศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่นี้ ที่ที่เราจะได้บรรยากาศแบบล้านนา ได้รับประทานอาหารดินเนอร์ขันโตกรสต้นตำหรับเชียงใหม่ ได้ชมการฟ้อนรำหลายรูปแบบทั้งอ่อนช้อยจนไปถึงแบบศิลปะป้องกันตัว และได้ชมการแสดงของชาวเขาหลากหลายเผ่าที่อพยพมาจากจีนตอนใต้ นอกจากกิจกรรมบันเทิงแล้ว ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์เรือนซ้อ-หงษ์ ซึ่งเดิมเป็นบ้านคหบดีสร้างเป็นเรือนไม้ใต้ถุนสูง เรียกว่า เรือนกาแลหรือเรือนเชียงแสน ที่มีการแกะสลักอย่างสวยงาม ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงความเป็นอยู่ของชางล้านนาในอดีต เครื่องเขินล้านนารูปแบบต่างๆ ผ้าโบราณ เครื่องจักสาน เครื่องแต่งกาย และโบราณวัตถุที่หาชมได้ยาก
อุทยานหลวงราชพฤกษ์ (Royal Park Rajapruek)

ที่ตั้ง: 225 หมู่ 3 ตำบลแม่เหียะ แผนที่
มีพื้นที่กว้างถึง 468 ไร่ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสครองราชครบ 60 ปี ใจกลางของอุทยานเป็นที่ตั้งของหอคำหลวง ซึ่งเป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้สัก-ไม้แดง โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบล้านนาแท้ตามแบบที่ประทับของเจ้าเมืองเชียงใหม่และพระราชวงศ์ชั้นสูง ภายในหอมีจิตรกรรมฝาผนังตามแบบล้านนาที่แสดงพระราชกรณียกิจ นอกจากนี้แล้ว อุทยานหลวงราชพฤกษ์ยังมีพรรณพืชเมืองร้อนเมืองหนาวกว่า 2,800 ชนิด สวนแมลง สวนไทย และสวนนานาชาติที่จัดสร้างขึ้นเพื่อถวายพระองค์ท่าน มาที่นี่จะได้ทั้งยลศิลปะล้านนาชิ้นเอกและทั้งสุนทรีย์ไปกับการชมความงามของสวนและพฤกษาพรรณอีกด้วย
สำหรับนักชิมและช้อป เราขอแนะนำถนนคนเดินสองแห่ง ที่มีทั้งร้านอาหารและอาหารแบบรถเข็น ให้เราได้ลิ้มลองอาหารล้านนาขึ้นชื่อของเชียงใหม่อย่างขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวซอย น้ำพริกอ่อง ฯลฯ พร้อมได้เดินช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองและสินค้าแฟชั่นด้วย

ถนนท่าแพ (Thapae Road)
ที่ตั้ง: บริเวณประตูเมืองท่าแพจนถึงถนนราชดำเนิน แผนที่
ปิดถนนให้กลายเป็นแหล่งชิมและช้อปเฉพาะวันอาทิตย์ เวลา 17.00-22.00 น. เป็นถนนคนเดินที่ดังที่สุด ใหญ่ที่สุด และมีผู้คนไปเที่ยวมากที่สุด มีร้านอาหาร ร้านบริการนวด ร้านขายของทานเล่น และแผงลอยขายสินค้าสารพัด รวมถึงสินค้าพื้นเมืองสำหรับเป็นที่ระลึกและของฝาก เช่น ผ้าพันคอ กระเป๋า เครื่องประดับ โคมไฟ ร่มพื้นเมือง รับรองมีให้เลือกเพียบ!
ถนนวัวลาย (Wualai Road)
ที่ตั้ง: ใกล้กับประตูเมืองเชียงใหม่ แผนที่
เปิดเป็นถนนคนเดินเฉพาะวันเสาร์ เวลา 17.00-22.00 น. ตลาดนัดบนถนนนี้มีขนาดเล็กกว่าที่ถนนท่าแพ ส่วนใหญ่แล้วพ่อค้าแม่ค้าเป็นคนพื้นเมือง จึงมีสินค้าพื้นเมืองจำนวนมาก และยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านผลิตเครื่องเงิน หากมองหาของแต่งบ้าน ของใช้ เครื่องประดับ และของที่ระลึกสไตล์ชาวเหนือแล้วล่ะก็ ที่นี่มีมากมายให้เลือกสรร
สถานที่ท่องเที่ยวนอกตัวเมืองเชียงใหม่
เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่กว่า 20 ล้านตร.กม. กว้างเป็นอันดับสองของประเทศ และมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายหลากหลาย เราจึงคัดสรรไฮไลท์ที่เที่ยวนอกตัวเมืองเชียงใหม่เด็ดๆ มาฝาก 7 แห่งด้วยกัน
เวียงกุมกาม (Wiang Kum Kam)

ที่ตั้ง: ทางตอนใต้อำเภอ สารภี ประมาณ ก.ม. 3-4 ถนนเชียงใหม่-ลำพูน แผนที่
ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนของเชียงใหม่ เป็นเมืองหลวงแห่งแรกในล้านนา เดิมตั้งขนานกับแม่น้ำปิง แต่เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำ ทำให้น้ำท่วมใหญ่พัดพาให้เมืองทั้งเมืองจมอยู่ใต้ดินเมื่อราว 200-450 ปีก่อน และกลายเป็นเมืองที่ถูกลืม เวียงกุมกามเป็นเมืองรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า จากการขุดสำรวจและบูรณะเมื่อปีพ.ศ. 2527-2545 พบโบราณวัตถุ ซากโบราณสถาน และโบราณสถานกว่า 40 แห่ง ที่สำคัญได้แก่ กำแพงเมือง วิหารวัดกานโม (ศูนย์กลางของเมือง) วัดเจดีย์เหลี่ยม วัดช้างค้ำ วัดหัวหนอง วัดธาตุขาว เป็นต้น ซึ่งหลายแห่งยังคงลวดลายปูนปั้นอันวิจิตรไว้แม้อยู่ฝังใต้ดินนานหลายร้อยปี
อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ดอยปุย (Doi Suthep-Pui National Park)
ที่ตั้ง: ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง แผนที่
เป็นท็อปเท็นสุดยอดภูเขาไทยน่าเที่ยวที่ Skyscanner แนะต้องไปสักครั้งในชีวิต ที่นี่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของตัวเมืองเชียงใหม่ มีจุดท่องเที่ยวหลายแห่ง เนื่องจากเป็นภูเขาที่อยู่ใกล้ตัวเมือง ระหว่างทางขึ้นเขาจะมีจุดชมวิวเมืองเชียงใหม่ ที่นอกจากจะได้แวะถ่ายรูปแล้ว ยังเป็นที่ให้เราได้พักผ่อนและสูดอากาศบริสุทธิ์ก่อนเดินทางไปยังที่เที่ยวที่สำคัญ ได้แก่
วัดพระธาตุดอยสุเทพ (Wat Phra That Doi Suthep)

ตั้งอยู่บนยอดดอยสุเทพ มีเจดีย์สีทองอร่ามเป็นทรงเชียงแสน ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่ทั้งชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวขึ้นไปสักการะเป็นจำนวนมาก โดยเป็นพระธาตุประจำปีมะแม ที่เชื่อกันว่า ชาวปีมะแม ที่มาสักการะและขอพร จะแคล้วคลาด เจริญรุ่งเรือง และได้สมปรารถนา
ดอยปุยและหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง (Mong Village on Doi Pui)

ชาวเขาเผ่าม้งอพยพอาศัยอยู่ที่ดอยปุยแห่งนี้มาช้านาน พวกเขามีสภาพความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ยังคงสวมใส่ชุดชาวเขาและปฎิบัติตามธรรมเนียมที่สืบทอดกันมานาน ภายในหมู่บ้านมีพิพิธภัณฑ์แสดงวิถีชีวิตชาวเขาและร้านขายของที่ระลึก ซึ่งมีทั้งสินค้าที่ผลิตภายในหมู่บ้านและนำมาจากที่อื่น บริเวณรอบๆ หมู่บ้านมีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก ในช่วงฤดูหนาวจะสามารถเห็นทะเลหมอกได้จากยอดดอย เสน่ห์ของดอยปุยอีกอย่างคือความเป็นมิตรและการต้อนรับอันอบอุ่นจากชาวเขา รอยยิ้มที่เด็กๆ มาต้อนรับและอาสาพาไปสวนดอกไม้นั้นทำให้เราผู้มาเยือนรู้สึกประทับใจยิ่งนัก
ขุนช่างเคี่ยน (Khun Chang Khian)

ขุนช่างเคี่ยนหรือเรียกเต็มๆ ว่า สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน อยู่เลยหมู่บ้านม้งแห่งดอยปุยไปไม่ไกล ที่นี่เป็นแหล่งชมต้นนางพญาเสือโคร่ง ที่มีฉายาว่า “ซากุระเมืองไทย” ที่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่ที่สุด โดยจะบานสะพรั่งเป็นสีชมพูอวดลมในฤดูหนาวช่วงปลายธ.ค - ม.ค. นอกจากนี้ เรายังจะได้ยลโฉมดอกบ๊วยหรือดอกพญาเสือโคร่งสีขาวที่นี่กันอีกด้วย
ดอยม่อนแจ่ม (Doi Mon Cham)

ที่ตั้ง: ตำบล อำเภอแม่ริม แผนที่
อยู่ถัดจากอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ดอยปุยไปไม่ไกล และบริเวณยอดดอยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเขาเผ่าม้งของหมู่บ้านม้งหนองหอย และเป็นที่ตั้งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ซึ่งเพาะปลูกสมุนไพร ผักและผลไม้เมืองหนาว รวมทั้งสตอเบอร์รี่และองุ่นพันธุ์ไร้เมล็ด อีกทั้งยังมีทุ่งดอกไม้ป่าและดอกไม้เมืองหนาวบนดอยนานาพรรณ โดยเฉพาะดอกดาวกระจายหลากสีและดอกกระดุมสีสันต่างๆ ที่จะบานสะพรั่งให้ชมกันทั้งปี ในเรื่องที่พักนั้น จะพักในกระท่อมหรือกางเต้นท์แค้มปิ้งก็ได้ สำหรับใครที่ชื่นชอบอากาศเย็นและบริสุทธิ์สดชื่น ขอบอกว่า ม่อนแจ่มไม่ทำให้ผิดหวังแน่ เพราะได้ใกล้ชิดธรรมชาติที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตรและมีอุณหภูมิต่ำตลอดทั้งปี นอกจากจะได้เห็นทัศนียภาพอันงดงามของทิวเขาสลับซับซ้อนแบบพาโนราม่าแล้ว ยามเช้าโดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว เราสามารถจิบกาแฟร้อนๆ พร้อมกับชมทะเลหมอกได้อีกด้วย
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (Doi Inthanon National Park)
ที่ตั้ง: ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง แผนที่
เราจัดอันดับดอยอินทนนท์เป็น 1 ใน 10 สุดยอดภูเขาที่เหล่านักล่องไพรไม่ควรพลาด เพราะมียอดดอยสูงถึง 2,599 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของประเทศไทย บริเวณบนเขาสูงมีอากาศเย็น-หนาวตลอดปี และมีที่เที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง ได้แก่
พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
พระมหาธาตุคู่นี้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ แม้ศิลปะที่ใช้สร้างเป็นแบบสมัยใหม่ ไม่ใช่แบบล้านนา แต่ก็ดูสวยงามแปลกตานัก นอกจากนี้ เราจะได้ชมวิวสวยๆ ของทิวเขาโดยรอบจากสวนดอกไม้เมืองหนาวที่อยู่ในบริเวณของพระมหาธาตุนี้อีกด้วย
น้ำตกแม่ยะ (Mae Ya Waterfall)
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงามมาก ที่ Skyscanner จัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 สุดยอดน้ำตกของไทย
ถ้ำบริจินดา (Bari Jinda Cave)
ขึ้นชื่อความงามของหินงอกหินย้อย และความงามของประกายระยิบระยับประดุจเพชรเมื่อมีแสงมาต้องกระทบกับธารหิน
น้ำตกสิริภูมิ (Siribhumi Waterwall)
น้ำตกที่มีสายน้ำแฝดตกลงมาจากหน้าผาสูงชัน
เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน (Kew Mae Pan Nature Trail)
แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศดีเด่นด้วยมีกิจกรรมท่องเที่ยวที่เน้นความเป็นธรรมชาติ เช่น การเดินป่า ที่จะทำให้ได้พบป่าดิบเขา ทุ่งหญ้าเขียวขจี ริมผา ไอหมอก และพืชพรรณเมืองหนาวอย่างดอกกุหลายพันปีที่มีดอกสีขาวและดอกสีแดงเบ่งบานเต็มต้นในเดือนธันวาคม-มกราคม นักปีนเขา ท่องป่า และรักการสัมผัสธรรมชาติไม่ควรพลาด!
ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี

เป็นแหล่งชมกล้วยไม้สกุลรองเท้านารี ซึ่งมีรูปลักษณ์ของกลีบคล้ายกับรองเท้าผู้หญิง มีหลากสีสันและหลายพันธุ์ ในช่วงเดือนมกราคมของทุกปี เราจะได้ชมดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูบานอยู่ริมทะเลสาป ซึ่งเป็นวิวที่นักท่องเที่ยวที่ต้องการชมซากุระเมืองไทยไปเก็บภาพกันมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง
นี่เป็นเพียงไฮไลท์ของเชียงใหม่เท่านั้น ยังมีที่เที่ยวและสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมายที่ไม่อาจเอ่ยถึงได้ทั้งหมด ณ ที่นี้ ความงามของสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่และไมตรีจิตของชาวเชียงใหม่เป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศมาเยือนนับหลายล้านคนต่อปี และต่างบอกต่อๆ กันว่า ฉันจะกลับมาเยือนเชียงใหม่อีกครั้งอย่างแน่นอน แล้วคุณล่ะได้ไปสัมผัสเมืองหลวงแดนล้านนานี้แล้วหรือยัง
ขอขอบคุน http://www.skyscanner.co.th/news/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น